banner banner banner
ศาสตร์ต้องห้าม
ศาสตร์ต้องห้าม
Оценить:
Рейтинг: 0

Полная версия:

ศาสตร์ต้องห้าม

скачать книгу бесплатно


“โอ้ ฉันดีใจมากเฮง ดากล่าว ฉันคิดว่าเราได้พบมิลค์เชคนี้เพื่อแก้ปัญหาสถาณการณ์ลำบากของเธอได้แล้ว แม้ว่าฉันมั่นใจว่าเราสามารถทำให้ดีขึ้นกว่านี้ได้อีกเล็กน้อย บางทีเราอาจจะสามารถหาส่วนผสมอื่นที่จะปรับเปลี่ยนรสชาติให้ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ เพื่อให้มันไม่น่าเบื่อ รู้ใช่ไหม”

“ครับป้า ผมรู้ว่าป้าจะช่วยให้ผมมันผ่านพ้นไปได้”

“ทำได้ทุกอย่างเพื่อครอบครัวของฉัน ฉันยินดีที่ได้ช่วยเหลือ” เธอตอบ และส่งรอยยิ้มที่อบอุ่นและจริงใจให้กับเขา

เธอผสมเลือดที่เหลือกับนมพร้อมด้วยสมุนไพรบางอย่างหนึ่งหยิบมือลงไปในมิลค์เชคห้าร้อยกว่ามิลลิลิตร แล้วพูดว่า:

“เฮง ฉันคิดว่าเธอควรจะพักผ่อนได้แล้ว ดูนั่น นี่เป็นมิลค์เชคสำหรับมื้อต่อไป และฉันจะสอนสมาชิกในครอบครัวเธอถึงวิธีทำมันให้เธอ ฉันลงไปข้างล่างก่อนนะ ตามสบายครับ เรียกฉันได้นะ ถ้าเธอต้องการฉัน เจอกันใหม่ หายเร็ว ๆ นะ”

ขณะที่ทุกคนนั่งสบาย ๆ ที่โต๊ะใหญ่ในสวน และวรรณได้นำเอาน้ำเย็นและผลไม้สดเพื่อเพิ่มความสดชื่นมาให้ทุกคน ดาเริ่มต้นพูดคุยกันในครอบครัว

“อย่างที่ฉันบอกไปตอนแรกว่าฉันไม่เคยพบเห็นเคยเรื่องเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นประสบการณ์ใหม่ของฉัน และจิตวิญญาณนำทางฉันให้พบวิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องได้

“อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ เรามีเพียงสิ่งที่เธออาจเรียกว่า “ทรัพยากรฉุกเฉิน” เท่านั้น จงเผชิญหน้ากับมัน เราให้เลือดสัตว์แก่เฮง ซึ่งพวกมันก็ไม่ได้กินอาหารเช่นเดียวกับมนุษย์ ดังนั้นเขาจะยังขาดสารอาหารที่สำคัญบางอย่าง

“สิ่งที่เราต้องทำ คือ ให้เลือดสัตว์ที่กินสิ่งที่มนุษย์กินแก่เขาให้เป็นปกติและต่อเนื่อง ยิ่งทำให้เหมาะสมกับเฮงได้เท่าไหร่ ยิ่งดีกับเขาเท่านั้น

ตอนนี้เราทุกคนรู้แล้วว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะกินสิ่งที่ร่างกายต้องการได้ในทุก ๆ วัน ดังนั้นเราอาจสันนิษฐานได้ว่าเฮงจะไม่ต้องการแบบนั้นเช่นกัน และหากเราให้เลือดไก่แก่เขา เขาจะขาดสารอาหารไปหลายอย่าง เพราะมีเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่จะทำให้ดีขึ้นและรอดชีวิตได้

“เช่นเดียวกัน ถ้าเขาเพียงแค่ดื่มเลือดแพะ หากว่าหญ้าไม่ได้มีสารอาหารเพียงพอสำหรับมนุษย์ในระยะยาว”

“แล้วป้าดาคิดว่ายังไงกับเรื่องนี้” เด่นถาม“ เราต้องหาเลือดลิงมาให้เขาหรือไม่”

“ใช่ นั่นคือความหมายของฉัน ถูกต้อง เด่น แต่ลิงก็ไม่ได้กินเหมือนที่พวกเรากินใช่ไหม”

เธอปล่อยให้ทุกคนช่วยกันคิดให้ลึกซึ้งในสิ่งที่เธอเสนอ ดินคิดมันได้ก่อน

“ป้าหมายความว่า พ่อจะต้องการเลือดของมนุษย์ปกติอย่างนั้นหรือ”

“ใช่ ดิน นั่นจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และอาจเป็นวิธีเดียวในระยะยาว ถ้าเธอไม่สามารถหาเลือดมนุษย์ได้ เธอจะต้องให้เลือดจำนวนมากแก่เขาจากสัตว์หลายชนิดเพื่อเทียบเท่ากับโภชนาการของมนุษย์ ยกตัวอย่าง..หมูที่กินอาหารที่เรากินกัน แต่มันไม่กินผลไม้มากเท่าไหร่ และมันไม่กินเนื้อหมูด้วยกันเอง

“ฉันคิดว่าเธออาจจะหา ‘ผู้บริจาคหมู.. สำหรับเฮง และเลี้ยงมันด้วยอาหารเฉพาะเพื่อได้เลือดที่ถูกต้อง และให้อาหารเสริมแก่มัน และเสริมด้วยเลือดของสัตว์ประเภทอื่น แต่ก็ต้องใช้ความพยายามอีกมากมาย เธอสามารถทำค็อกเทลเลือดไก่ แพะ หมู สุนัขและแมว แล้วเก็บมันไว้ในตู้เย็น แต่ไม่มีใครทำแบบนั้นมาก่อนเท่าที่ฉันรู้มานะ… ผลลัพธ์จะไม่สามารถคาดเดาว่ามันจะดีที่สุด

“ทางออกที่เป็นจริงเป็นเรื่องที่ธรรมดามากเช่นเดียวกับปลายจมูกบนหน้าของเธอนั้นล่ะ และมันก็คือ เลือดมนุษย์

“เราดูตัวอย่างทดสอบของพ่อเธอเจ็ดชั่วโมงก่อนหน้านี้ และหลักฐานมันก็ชัดเจน

“พ่อของเธอขาดเลือด!

“ไม่มีเลย!

“ไม่มีแม้สักหยด!

“ฉันจะทำให้เธอดู” ดาเอื้อมไปหยิบของที่กระเป๋าสะพาย และเอาตะไคร้น้ำที่ห่อด้วยใบตองออกมา “นี่คือผลฉี่ของพ่อเธอ ดูนี่” เธอจุดไฟเผามัน “เปลวไฟกระตุกเล็กน้อย

จากความชื้น แต่เห็นไหมว่าไม่มีสีใด ๆ ในเปลว นั่นคือการขาดวิตามิน ขาดเกลือแร่ ไม่มีสิ่งใดในเลือดเลย เขามีแค่น้ำในเส้นเลือด ถึงแม้ว่ามันจะยังคงมีสีแดงอยู่ก็ตาม

“พวกเราจะเอาเลือดเขาออกมาตรวจเล็กน้อยภายหลัง ถ้าเธอต้องการ ถ้าเขามีเลือดจริง ตะไคร้น้ำจะเหือดแห้งทันที และมีสีเหมือนถูกเผาไหม้

“ก้อนหินก็เหมือนกัน ดูสิ! เฮงบ้วนน้ำลายลงไปตรงนี้ แต่ไม่มีวงเกลือ ไม่มีอะไรเลย และมันก็เป็นเพียงน้ำอีกเช่นกัน พ่อของเธอไม่มีเลือดอยู่ในตัวเขา

“ไม่มีแม้แต่หยดเดียว!”

“มันเลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ ป้าหมอ เด่นถาม

“แย่มากใช่ไหม แย่มากใช่ไหม เจ้าหนุ่ม มนุษย์ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้หากไม่มีเลือด!

“ฉันรักเธอมากนะ เด่น แต่เธอก็ยังโง่ได้จนในเวลานี้! เซ็กส์ขึ้นสมอง ฉันรู้ว่ามันเป็นธรรมดาของเด็กหนุ่มทั่วไป

“และมันเป็นแค่เพียง ‘ป้า’ ธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

“พ่อของเธอกลายเป็นแวมไพร์ไปแล้ว… ที่ผ่านมาเขากัดเธอหรือเปล่าล่ะ”

“ไม่ครับป้า แต่บางทีเขาอาจจะกัดแพะก็ได้ เราไม่อาจรู้ได้” เด่นตอบ

“โอ้ นี่มันเรื่องร้ายแรงนะ ร้ายแรงมากจริง ๆ ฉันเคยได้ยินกรณีแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน แต่ไม่เคยพบเห็นเลยจาก… ประสบการณ์อันมากมาย เอ่อ… ของฉัน

“ว้าว” เด่นอุทานออกมา พ่อกลายร่างเป็นผีปอบ เป็นแวมไพร์อย่างนั้นหรือ คอยดูนะ ฉันจะเล่าเรื่องนี้ให้พวกเพื่อน ๆ ฟัง! เฮงผีปอบ! นั่นมันสุดยอดมากเลย!”

“เขาจะตายในไม่ช้านี่ใช่ไหม” ดินถาม

“พวกเรากำลังพยายามจะช่วยเขา ดิน เราจะทำทุกอย่างที่ทำได้ แต่นั่นหมายความว่าอย่าเพิ่งเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง เด่น! นายเข้าใจไหม ไม่ว่าใคร ไม่ว่าใครทั้งนั้น เจ้าเด็กโง่!

“เธอแน่ใจนะว่าเด็กคนนั้น คือ เจ้าหนุ่มลีจริง ๆ เหรอ วรรณ” เธอเหลือบมองไปยังวรรณซึ่งกำลังทำหน้าบึ้งตึงใส่เธอด้วยความไม่เคารพ ทั้งที่เธอควรจะสำรวมต่อหน้าหญิงชราที่เพิ่งช่วยชีวิตสามีที่กำลังจะตายเอาไว้

“ก็นั่นแหละ นั่นคือ ทายาทของเธอ ท้ายที่สุดมันก็เป็นการตัดสินใจของพวกเธอทั้งสี่คน นับแต่นี้พวกเธอจะต้องเรียนรู้ขั้นตอนการรักษา และเฮงจะต้องได้รับการรักษา สำหรับชีวิตที่เหลืออยู่ของเขาซึ่งอาการแบบนี้จริง ๆ แล้วมันไม่มีทางรักษาได้เลย

ดาปล่อยให้ตัวเองทรุดตัวลงพิงเสาหลังคา และหลับตาราวกับว่าเธอกำลังปิดหนังสือ และอ่านจบแล้ว ครอบครัวมองไปที่เธอ แล้วต่างก็สงสัยว่าพวกเขาจะผ่านเรื่องราวนี้ไปได้อย่างไร

ในขณะที่ป้าดาดูเหมือนจะตกอยู่ในภวังค์ หรือเคลิ้มไป แต่อีกสามคนก็ถกเถียงกันว่าพวกเขาควรจะทำอย่างไรต่อไป

“เอาแบบนี้” วรรณกล่าว “เราไม่สามารถหาเลือดจากคนในท้องถิ่นได้มากพอใช่หรือไม่ พวกเขาส่วนใหญ่คิดว่าไม่ใช่เรื่องของพวกเขา อย่างดีก็ให้เลือดได้นิดหน่อย และเราไม่สามารถซื้อจากพวกเขาได้”

“เราสามารถขอบริจาคได้จากคนมาเที่ยว และนำเลือดจากพวกเขาใส่ขวด และเก็บไว้ในตู้เย็น… ” เด่นกล่าว

“เราไม่มีคนมาเที่ยวที่นี่เยอะนักนี่ เด่น” แม่พูดพร้อมเจาะปาก

“เราจะพยายามทำค็อกเทลจากเลือดสัตว์ต่าง ๆ และเราทุกคนสามารถบริจาคเลือดได้เดือนละหนึ่งไพน์” ดินช่วยกันนะ

“อืม ฉันไม่รู้ว่าคนคนหนึ่งสามารถให้เลือดได้เท่าไหร่ต่อปี แต่สิบสองไพน์ ฟังดูเยอะมากสำหรับฉัน คิดดูดี ๆ นะ”

“บางทีทุกคนในเครือญาติอาจจะต้องเตรียมที่จะบริจาคเลือดอย่างต่อเนื่อง ถึงอย่างไรพ่อของเธอก็เป็นที่รักของคนละแวกนี้นะ… ”

“เราสามารถเสนอซื้อเลือดทั้งหมดจากคนที่ตายแล้ว” เด่นเสนอความเห็น

“ฉันคิดว่า เธอต้องเอาเลือดออกจากร่างกายให้ได้ก่อนตาย ไม่อย่างนั้นหากหัวใจหยุดเต้น และจะไม่สามรถอะไรที่จะสูบออกมาได้”

“เราสามารถยกเท้าพวกเขาขึ้น และใส่ท่อไว้ที่คอหอย… หรือที่หัวใจ… หรือทั้งสองอย่างได้ไหม”

“ฉันรู้ ดังนั้นเมื่อมีคนเฒ่าคนแก่บางคนที่เรารักตายลง และทุกคนจะต้องมีการร้องไห้ เธอคิดว่าเราจะทำได้เร็วปานนั้นก่อนที่จะมีอาการตัวเย็น แล้วถามว่าเราจะมัดเท้าแล้วระบายเลือดใส่ถังให้พ่อดื่มทีหลังอย่างนั้นหรือ เฮ้อ

“เราจะทำได้ดีแค่ไหน เธอคิดว่าจะแย่ลงไหม”

“เราสามารถยื่นข้อเสนอบางอย่างไปก่อน… ”

“อย่าแม้แต่จะแนะนำสิ่งที่เลวทราม และโง่เขลาแบบนี้เลย!”

“เด็กทารกเป็นยังไงบ้าง… ไม่นะ เอ่อ” เด่นพูดแล้วก็เงียบลง คำแนะนำทั้งหมดของเขาถูกปฏิเสธจนถึงตอนนี้

“โดยสรุปจนถึงตอนนี้เราต้องทำอันดับแรกคือ รวบรวมเลือดจากสมาชิกในครอบครัว และอย่างที่สอง ทำค็อกเทลเลือดสัตว์ ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าจะได้ผลหรือไม่

“มีอะไรอีกไหม”

“พวกเราสามารถทำได้… ไม่ บางทีอาจจะไม่… ” เด่นกล่าว

“มานี่ก่อน ออกมาเถอะ โง่หรือนั่น” แม่ของเขาพูด” เราไม่มีทางเลือกและต้องพิจารณาทุกทางเลือก”

“งั้นฉันอาจจะเป็นมุสลิมก็ได้… จากนั้นฉันก็สามารถมีภรรยาสี่คน และนั่นจะช่วยหาคนบริจาคเลือดได้อีกสี่คน… และถ้าพวกเขามีลูกอีกคนละสี่คน นั่นก็จะมีคนบริจาคอีกสิบหกคน และ… ”

“ได้ ตามนั้นเด่น ขอบคุณสำหรับความคิดนั้น! ฉันหวังว่าฉันจะไม่ถามตอนนี้… สิ่งต่อไป เธอจะแนะนำให้น้องสาวเธอทำ และหาเลือดอีกสองไพน์!”

ดินเลือดขึ้นหน้าอย่างสุดขีดในความคิดนั้น และตกใจที่แม่ของเธอพูดมาแบบนั้น แต่แล้วเด่นก็พยักหน้ากับความคิด จนวรรณได้เตะเขา

“เท่าที่ฉันเห็นเรามีอีกสองปัญหาที่เรายังไม่ได้พิจารณา” ดินกล่าว “ป้าดาบอกว่าจริง ๆ แล้ว พ่อต้องเห็นด้วยกับวิธีการของเรา เพราะเขาเป็นคนดื่ม และเราต้องการอีกในวันพรุ่งนี้”

“เราอาจจะใช้มิลค์เชคเลือดแพะอีกสำหรับพรุ่งนี้ แต่กระนั้นพ่อของเธอดูเหมือนจะชอบรสไก่มากกว่า แต่ก็ใช่ เธอพูดถูก เราต้องทำอย่างสม่ำเสมอกว่านี้ เราสามารถถามป้าเรื่องนี้ในภายหลัง สำหรับพ่อของเธอ เขาจะต้องกินทุกอย่างที่เราเอาให้เขา และต้องขอบคุณกับมันจนกระทั่งเขาจะแข็งแรงพอที่จะแยกแยะความต้องการด้านอาหารของตัวเองได้ แต่ฉันแน่ใจว่าเขาจะขอบคุณที่เธอนึกถึงเขา”

เมื่อทั้งสามคนถอยกลับไปสู่ความคิดเห็นของตัวเองสักสองสามนาที ดา ‘คิดขึ้นได้’

“เธอมีไอเดียใหม่ ๆ บ้างหรือไม่ หรือฉันควรพูดถึงแค่วิธีแก้ปัญหา”

“ไม่นะ ป้า” วรรณเปิดรับ“ เด่นมีไอเดียตามจินตนาการอยู่สองสามอย่าง แต่ก็ไม่สามารถเป็นไปได้จริง ๆ น่าเสียดายที่เราเหลือเพียงข้อเสนอเดียวกับที่ป้าทำเมื่อหลายชั่วโมงก่อน”

“ใช่ ฉันคิดว่านั่นคือสิ่งที่เธอจะพูด แต่พูดตามตรงว่านี่ไม่ใช่ปัญหาที่จะแก้ได้ง่าย ๆ เห็นด้วย ฉันว่าจะทำสมาธิปล่อยวางสักหน่อย แต่มันก็สายเกินไปสำหรับบ่ายนี้ และฉันก็เริ่มเหนื่อย ลูกของเธอจะพาฉันไปบ้านได้ไหม และเราทุกคนก็สามารถคิดแลดตัดสินใจเกี่ยวกับมันได้ใช่ไหม”

พวกเขารอให้เด่นกลับมาก่อนทานอาหารค่ำ ตรวจดูสัตว์เลี้ยง พาพวกมันไปอาบน้ำ และใช้ช่วงเวลาสุดท้ายของวันด้วยกันก่อนเข้านอนให้เร็วขึ้น เพราะความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน อย่างไรก็ตามความจริงของเรื่องก็คือ ไม่มีใครอยากขึ้นไปชั้นบนตามลำพังที่ซึ่งมีแวมไพร์อยู่ที่นั่น ดังนั้นพวกเขาจึงอยากขึ้นไปพร้อมกันหมด

วรรณไม่ได้อยากจะนอนกับเขาเสียด้วยซ้ำ แต่เธอรู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ ดังนั้นการเป็นคนที่อาวุโสที่สุดจึงเป็นผู้นำเทียนพาลูก ๆ ที่หลบหลังฝ่าความมืดท่ามกลางความกลัวจนตัวสั่น

พวกเขาหยุดที่เตียงแต่งงานและจ้องมอง เฮงนั่งตัวตรงอยู่บนเตียง ผิวซีดเซียวและดวงตาแดงกร่ำเปล่งประกายในความมืด

“สวัสดีตอนเย็นทุกคนในครอบครัว!” เขาพูดด้วยเสียงต่ำและแหบห้าว

ทั้งสามคนขึ้นไปบนเตียงตามลำดับ แต่ไม่อาจละสายตาจากเฮงที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวตัวได้ แต่มีเพียงสายตาจ้องมองออกไปข้างหน้าของตัวเอง

1 3 ผีปอบเฮง

พวกเขาได้ตื่นมาในตอนเช้าจากการเผลอหลับไปจากอาการเหนื่อยล้า เฮงห่มผ้าเรียบร้อยและหนุนหมอนสูง

ทุกคนลุกขึ้น และลงไปข้างล่างทันทีเท่าที่จะสามารถทำได้ โดยเดินผ่านเตียงเขาไปอย่างรวดเร็ว

“โว้ว แม่ เห็นพ่อเมื่อคืนนี้ไหม” เด่นถาม “ดวงตาของเขา และผิวของเขาสว่างจ้าอยู่ในห้อง แต่ทว่ามันเป็นดวงตาของเขาจริงหรือ มันเคยเป็นสีดำบนพื้นสีขาวเหมือนเรา แต่ตอนนี้พวกมันเป็นสีแดงบนพื้นสีชมพู… ฉันคาดว่า… คงเป็นเพราะเลือดทั้งหมดนั่นแน่ ๆ

“แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ลูกเอ้ย แต่แม่คิดว่าลูกพูดถูก เธอคงต้องหามันเพิ่มอีก และพาน้องสาวเธอไปกับเธอด้วยเพื่อไปเอานมมาเพิ่มอีก เธอจำวิธีการที่ป้าเอาเลือดได้ไหม

“ได้ครับแม่ ผมคิดว่าจะเอามันจากเจ้าแพะตัวผู้ดีไหม เพื่อให้มันเป็นตัวสุดท้ายที่จะเอาใช้รักษาได้

“ดี เป็นความคิดที่ดี เด่น ใช้เลือดแพะที่ต่างกันในแต่ละวัน และดินก็สามารถรีดนมตามปกติได้ในทุกวัน ในเวลานี้นมแพะทั้งหมดจะใช้สำหรับพ่อของเธอ ตกลงไหม เขาต้องการมันมากกว่าที่พวกเราหาได้ และเราไม่ต้องการให้เขาหิวในตอนดึกใช่ไหม”

“ไม่นะ แม่ ไม่เด็ดขาด! ฉันต้องใช้เวลานานมากกว่าจะได้นอนเมื่อคืนนี้ ฉันกลัวจนตัวแข็งถ้าพ่อจะออกมาเอาเอง และเริ่มเดินเข้าไปมองหาอะไรกิน หรือใครบางคน”

“เธออย่ากังวลเรื่องนั้นตอนนี้เลยเด่น ฉันอยู่ใกล้มากกว่าเธอ ถ้าเขาจะมาก็ต้องเจอฉันก่อนแต่ถ้าเห็นความเหี่ยวเฉาและผิวหนังซีด ๆ บนเตียงนั่น ก็หลีกเลี่ยงไปสิ เช่นเดียวกันถ้าในตอนเช้าเธอเห็นดวงตาสีแดงสี่ดวงมองเธอผ่านมุ้งจากด้านหลังในเช้าวันหนึ่ง”

“พนันกันได้เลย แม่! ฉันจะไป และเอาเลือดนั่นเดี๋ยวนี้เลย ดินอยู่ที่ไหน”

“ฉันไม่รู้ บางทีเธออาจจะออกไปแล้ว ไปทำหน้าที่ของเธอเถอะ และฉันจะเอามอเตอร์ไซค์ไปรับป้าดา ฉันคิดว่าเรายังต้องการความช่วยเหลือสำหรับพ่อของเธอ เธอและน้องสาวของเธอรอฉันกลับมาก่อนนะ ก่อนที่จะขึ้นไปหาพ่อได้ไหม”

“ได้สิ แม่ ไม่จำเป็นต้องบอกถึงสองรอบหรอก แต่เราจะทำยังไงหากเขาเดินลงมา”

“ฉันไม่คิดว่าเขาจะลงมา…เขาหลับไปเร็วมากตอนที่ฉันลุกจากเตียง แต่เราจะอยู่ได้ไม่นาน ถ้าคิดว่าเขาจะตื่นขึ้นมา แค่อย่าให้เขาจูบอรุณสวัสดิ์เท่านั้นเอง”

วรรณกลับมาภายในสิบนาทีหลังจากนั้นพร้อมกับดา ซึ่งนั่งอยู่บนโต๊ะของตัวเองเพื่อรอการมาเยี่ยมเฮงของคนในครอบครัวเฮงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อพวกเขากลับมา เฮงยังไม่ลงมา ดินรวบรวมนมมา และเด่นก็เกือบจะพร้อมแล้ว

“เอาล่ะ” ดากล่าว “ตอนนี้ฉันแนะนำให้เอานมแพะกับเลือดมาอย่างละครึ่ง และใบโหระพา 1 ช้อนชา เม็ดผักชีครึ่งหนึ่ง และโรยลงไป คนมันให้เข้ากัน และอยู่ตรงนั้นก่อน ให้เขาดื่มครึ่งลิตรในตอนเช้า และทำเช่นเดียวกันในเวลาก่อนนอน นั่นน่าจะเพียงพอแล้วในตอนนี้ โอ้ แล้วอย่าให้กระเทียมเขาอีกนะ มันแย่มากสำหรับแวมไพร์! ไปกันเถอะ ไปหาเขาตอนนี้เลย”

“ก่อนที่เราจะไปขึ้นไป ป้าดา ฉันควรจะบอกป้าว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในการนั่งตัวตรงบนเตียง ส่องแสงแวววาวราวกับสัญญาณไฟพร้อมกับผิวซีดเผือด ด้วยดวงตาสีชมพูที่มีลูกกะตาสีแดง โอ้ และเมื่อเขาพูดกับเรา! โอ้ พระเจ้า! ฉันไม่เคยได้ยินอะไรแบบนั้นมาก่อน เขาพูดว่า “สวัสดีตอนเย็นทุกคน” ด้วยน้ำเสียงทุ้ม ๆ แปลก ๆ … มันช่างน่ากลัวจริง ๆ”

“ตอนนี้ยังไม่เป็นไร… ไปกันเถอะ และไปดูเขาก่อน”

พวกเขาไปข้างบนพร้อมขวดมิลค์เชคและเข้าไปในห้อง บานประตูหน้าต่างทั้งหมดถูกปิดลง ดังนั้นด้านในจึงมืดสนิท วรรณก้าวออกไปข้างนอกอีกครั้ง หยิบเทียนจากเชิงเทียนจุดไฟด้วยไฟแช็คที่ห้อยจากเชือกใกล้ ๆ แล้วกลับเข้าไปในห้องเพื่อสมทบกับดา ซึ่งเข้าไปใกล้เตียงที่เฮงนอนอยู่

แสงเทียนเผยให้เห็นว่าไม่มีอะไรใหม่ สาว ๆ จึงผูกมุ้งและนั่งลงข้างเตียงทั้งสองข้าง วรรณดึงผ้าคลุมกลับ และเขานอนหงายเปลือยกาย อยู่ที่นั่น กางแขนออกกว้างเหมือนพระเยซูบนไม้กางเขน ลูกตาเบิกโพรงสีแดงกล่ำเข้มสองดวงในเม็ดอัลมอนด์สีชมพูอยู่บนหน้ากากที่แสนน่ากลัว ริมฝีปากของเขามีริ้วเล็ก ๆ สองเส้นรอบปากของเขา

วรรณมองดาที่กำลังศึกษาคนป่วยด้วยความสงสัย เธอวางหลังมือไว้บนหน้าผากของเขา และไม่แปลกใจเลยที่พบว่ามันเท่าอุณหภูมิในห้อง

“วันนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง เฮง” ผู้เป็นภรรยาถาม

“หิว… ไม่กระหาย” เขาพูด คำพูดดังออกมาจากปากของเขาเหมือนก้อนหินที่ตกลงไปบนโขดหินในเขาที่ดังกึกก้อง

“เอาล่ะ ที่รักของฉัน ลุกขึ้นนั่งเถอะ เรามีมิลต์เชคที่ดีเยี่ยมอีกมากสำหรับคุณ”

เธอจัดหมอนใหม่สำหรับเขา ช่วยให้เขาลุกขึ้นนั่ง และห่มผ้าให้เขา

“ดื่มนี่สักหน่อยนะที่รัก” วรรณบอก” มันเป็นรสชาติที่เธอชอบแบบเมื่อวานเลย”

ดาเทลงในแก้วน้ำ และเอาฟางข้าวใส่ลงไปให้เขา เฮงดื่มของเหลวสีชมพูที่มีฟองสมุนไพรสีเขียวลอยขึ้นมาไปสองแก้ว เขาถูกดึงให้นั่งตัวตรง และเหมือนว่าจะเป็นครั้งแรกที่ได้มองไปรอบ ๆ เป็นครั้งแรก

“เธอชอบไหมล่ะ เฮง” ดาถามขึ้น “ฉันเห็นว่าตอนนี้เธอมีชีวิตชีวากว่าตอนที่เราเข้ามาก่อนนี้มาก เธอคิดว่าเธอจะสามารถลงมาข้างล่างได้ในวันนี้ไหม แสงอาทิตย์ที่สาดส่องอาจทำเธอดีขึ้นมาบ้าง… เธอดูซีดไปหน่อย… เธอไม่คุ้นเคยกับการอยู่ข้างในแบบนี้ใช่ไหม”